Category: เครื่องใช้ไฟฟ้า

วิตามินเค

วิตามินเค เป็นวิตามินที่ละลายในไขมันได้ดี ตามปกติมีโอกาสน้อยมากที่จะพบผู้ป่วยที่ขาดวิตามินเคโดยตรง ส่วนมากจะพบกับผู้ที่มีโรคประจำตัวมาก่อน เช่น ความผิดปกติเกี่ยวกับระบบดูดซึมสารอาหาร โรคแพ้กลูเตน การดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนักหรือการรับประทานยาเพื่อรักษาอาการอื่น ๆ จนเป็นเหตุให้การดูดซึมวิตามินเคเข้าร่างกายได้น้อยลง วิตามินเคนั้นเมื่อแบ่งตามการทำงานจะมีเพียงแค่รูปแบบเดียวเท่านั้นคือเมนาควิโนนหรือวิตามินเค 1 และอีก 2 รูปแบบนั้นเป็นวิตามิน K2 และ K3 ซึ่งเกิดจากการสังเคราะห์ภายในร่างกายโดยตับและยังถูกสร้างจากแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในร่างกายได้อีกด้วย แต่ท้ายที่สุดแล้วทั้งวิตามิน เค2 เค3 ก็จะถูกนำมาใช้งานในลักษณะเดียวกับ เค1 อยู่ดี ในคนปกติร่างกายต้องการวิตามินเคที่ 100 ไมโครกรัมต่อวันซึ่งถือว่าน้อยมากสำหรับการรับประทานอาหารแบบปกติถือว่ามากเกินพอ วิตามินเคนั้นพบได้มากในอาหารประเภทเนื้อสัตว์และเมล็ดพืชที่มีน้ำมันเช่นถั่วเหลือง เมล็ดกาแฟ ถ้าหากขาดวิตามินเคนั้นจะมีอาการเลือดออกตามอวัยวะต่าง ๆ ซึ่งอาการนี้อาจจะถูกพบไปทารกวัยแรกเกิดเนื่องจากการสังเคราะห์สารอาหารจากไขมันที่มีสะสมตามร่างกายและอวัยวะภายในยังพัฒนาได้ไม่สมบูรณ์ จึงสังเคราะห์วิตามินเคได้น้อยสำหรับทารกแล้วถ้าแพทย์พบมักจะแก้ไขด้วยการฉีดวิตามินเคเพียง 1 เข็มจำนวน 10 mg ให้ได้รับโดยตรง แต่ในผู้ที่มีลักษณะของการขาดวิตามินเคเรื้อรังจะต้องได้รับวิตามินเคเสริมเข้าไปจำนวน 1-2 mg ต่อสัปดาห์ วิตามินเคจัดเป็นสารเคมีที่จัดอยู่ในหมวดสารอันตราย ไม่ควรจะซื้อมารับประทานเองอย่างเด็ดขาดต้องรับประทานภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น

เกลือแร่ที่สำคัญมีอะไรบ้าง 2

ธาตุเหล็ก เป็นองค์ประกอบสำคัญของเม็ดเลือดแดง สามารถพบได้ในเนื้อสัตว์ และพบมากใน ตับ เมื่อขาดธาตุเหล็กแล้วร่างกายจะไม่สามารถผลิตเม็ดเลือดขึ้นมาใหม่ได้ เพราะปกติแล้วเลือดในร่างกายมนุษย์จะถูกสร้างขึ้นใหม่อยู่ตลอดเวลา และเซลล์เม็ดเลือดในแต่ละเซลล์จะมีอายุประมาณ 3 ถึง 6 เดือนเท่านั้น ปัญหาการขาดธาตุเหล็กนั้นพบได้มากในแถบประเทศทุรกันดารซึ่งประชาชนมีสภาพกินอยู่กันอย่างอดอยาก สังกะสี เป็นแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการเพียงแค่น้อยนิดแต่ก็มีความจำเป็นมาก จะต้องรับประธานอาหารที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุสังกะสีอยู่เป็นประจำ ซึ่งพบได้ในเนื้อสัตว์ปีก เนื้อปลา เนื้อแดง การขาดสังกะสีจะทำให้เด็กทั้งหญิง ชาย มีการเจริญเติบโตทางเพศที่ผิดปกติ ภาวะเบื่ออาหาร ท้องร่วงฉับพลัน และบาดแผลหายช้า แมกนีเซียม พบได้มากในอาหารประเภทผักใบเขียว ถั่ว นม มีส่วนสำคัญในการสร้างเลือดและกระดูกให้มีความแข็งแรงมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยให้ระบบประสาทและกล้ามเนื้อสามารถสื่อสารเพื่อให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้ _x0

เกลือแร่ที่สำคัญมีอะไรบ้าง 1

เกลือแร่ถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ตามความต้องการของร่างกาย คือเกลือแร่ที่ร่างกายต้องการเป็นจำนวนมากเพื่อนำไปเสริมสร้างเนื้อเยื่อและอวัยวะ เช่น แคลเซียมที่เป็นส่วนประกอบหลักของกระดูกและกล้ามเนื้อ ส่วนอีกชนิดคือ คือเกลือแร่ที่ร่างกายต้องการในปริมาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่เมื่อขาดเกลือแร่เหล่านี้ร่างกายก็ทำงานไม่ได้ ซึ่งประกอบด้วย สังกะสี ไอโอดีน โพแทสเซียม เหล็กทองแดง แมกนีเซียม ฟลูออไรด์ โซเดียม และอื่น ๆ อีกหลายชนิด แคลเซียมพบ ได้มากในอาหารประเภทเนื้อ นม ไข่ จัดเป็นส่วนประกอบสำคัญของโครงสร้างหลัก ของร่างกายแต่การจะรับประทานแคลเซียมให้ได้ผลก็ต้องมีวิตามินดีที่ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีอีกด้วย หากร่างกายขาดแคลเซียมในวัยเด็ก การเจริญเติบโตจะหยุดชะงักแถมยังมีโอกาสเป็นโรคกระดูกในยามชรามากขึ้น โซเดียม พบได้ในอาหารประเภทเกลือเป็นหลัก มีความสำคัญมากในกระบวนการทำงานของร่างกาย ปกติแล้วร่างกายมีความต้องการโซเดียมอยู่ที่ 2400 mg ต่อวัน สำหรับผู้ใหญ่ การรับโซเดียมที่มากเกินไปจะส่งผลต่อการทำงานของไตที่มากขึ้น จนมีโอกาสเกิดโรคทางไต หลายคนมักจะเข้าใจผิดว่าโซเดียมจะต้องเป็นสารที่ให้ความเค็มเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงโซเดียม ยังถูกแยกออกมาอีกหลายชนิด _x0

ลักปิดลักเปิด

ลักปิดลักเปิดเป็นโรคที่เกิดจากการขาดวิตามินซีอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะมาจากสาเหตุขาดสารอาหารหรือจะเป็นกระบวนการดูดซึมในของร่างกายที่ผิดปกติ ร่างกายมนุษย์นั้นไม่สามารถกักเก็บวิตามินซีไว้ใช้งานในอนาคตได้นาน ไม่เหมือนกับสารอาหารประเภทไขมันที่สะสมไว้ยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย อาการของโรคนี้ในปัจจุบันไม่น่ากลัวเพราะสามารถรักษาได้ด้วยการให้รับประทานวิตามิน C เพียงแค่ 10 มิลลิกรัมต่อวันก็ถือว่าแก้อาการของโรคได้แล้ว ส่วนใหญ่โรคนี้พบได้มากในอดีต ในช่วงสงครามซึ่งมีสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมกับการใช้ชีวิต โรคลักปิดลักเปิดในอดีตเป็นเรื่องที่อันตรายถึงชีวิตเพราะไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิตามินซี ซึ่งมีงานวิจัยที่เชื่อถือได้ออกมาปี 1796 โดยเก็บตัวอย่างทดลองจากกะลาสีที่ใช้ชีวิตอยู่บนเรือกลางทะเลเป็นเวลานาน โรคลักปิดลักเปิดมีสาเหตุจาก การผลิตคอลลาเจนเพื่อเสริมสร้างความชุ่มชื้นให้กับเซลล์ต่าง ๆ ไม่ได้จะเป็นปัญหาตามมาแบบปฏิกิริยาลูกโซ่ ตั้งแต่ปวดกระดูก มีอาการไม่สบายตัว เจ็บป่วยมึนงง รู้สึกปวดเมื่อยตามร่างกายอยู่เสมอ เมื่อเกิดอุบัติเหตุที่เป็นแผล แผลก็จะหายช้ามาก อาการเริ่มต้นของโรคลักปิดลักเปิดไม่ค่อยอันตรายเท่าไหร่ แต่อาการที่ตามมาสามารถทำให้ผู้ป่วยถึงขั้นเสียชีวิตได้เมื่อโลกมีอาการรุนแรงมากขึ้น กระดูก ฟันและเนื้อเยื่อต่าง ๆ เสื่อมสลายเปลือยยุ้ยได้ง่าย เส้นประสาทตามร่างกายเสียหายมีแผลหนองขึ้นตามร่างกาย _x00

วิตามินเอ

วิตามินเอมีความสำคัญต่อร่างกายไม่แพ้วิตามินซี ซึ่งพบได้มากในพืชที่มีสีเหลืองถึงส้มแดง เช่น แครอท มะเขือเทศ ฟักทอง นอกจากนี้ยังพบได้ในผักเขียวเข้มประเภทคะน้า ผักชะอม มะรุม วิตามินเอนั้นมีอยู่ 2 ชนิดด้วยกันคือวิตามินเอที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นมาและอยู่ในรูปแบบของวิตามินเออยู่แล้วเช่นน้ำมันตับปลา และอีกประเภทหนึ่งคือวิตามินเอที่อยู่ในรูปของแคโรทีนซึ่งพบได้ในสารอาหาร ซึ่งแคโรทีนนี้ยังถือว่าไม่เป็นวิตามินเอโดยสมบูรณ์แต่จะอาศัยกระบวนการภายในร่างกายเปลี่ยนแปลงให้กลายเป็นวิตามินเอ ในเชิงโครงสร้างวิตามินเอเป็นสารละลายที่ต้องการไขมันในการทำงาน ถ้าหากทานมากเกินไปจะเกิดปัญหาไขมันพอกตับ โดยรวมแล้ววิตามินเอจัดเป็นสารเคมีที่มีความอันตรายสูงถ้ากินเกินขนาด และยังอันตรายถึงชีวิตของทารกที่อยู่ในครรภ์มารดาช่วง 1-3 เดือนอีกด้วย ในช่วงนี้ถ้ามารดาได้รับวิตามินเอมากเกินไปถึงแม้ทารกที่อยู่ในครรภ์จะมีชีวิตอยู่จนสามารถคลอดได้ก็ยังเสี่ยงต่อความผิดปกติอาหารการเจริญเติบโต เช่น กระดูกผิดรูปร่าง ทางเดินปัสสาวะไม่สมบูรณ์ วิตามินเอมีชื่อเสียงในด้านการบำรุงสายตา และยังใช้รักษาอาการอักเสบเล็กน้อยทางผิวหนังอย่างเช่นสิวอักเสบ โรคสะเก็ดเงิน โรคหนังเกล็ดปลา บางคนก็ใช้วิตามินเอ เพื่อเป็นอาหารเสริมในการเสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศแต่ก็ยังไม่มีงานวิจัยรองรับ แน่ชัด _x00

วิตามินดี

วิตามินดีจัดเป็นวิตามินที่ผู้คนไม่ค่อยให้ความสนใจมากเท่าไหร่ จากการสุ่มสำรวจเก็บสถิติของพนักงานออฟฟิศจากกรุงเทพฯพบว่าพนักงานจำนวน 36 เปอร์เซ็นต์มีโอกาสขาดวิตามินดี สาเหตุหนึ่งที่วิตามินดีไม่ค่อยได้รับความสนใจมากนักเพราะว่าร่างกายมนุษย์มีกระบวนการที่สามารถสังเคราะห์ไขมันให้กลายเป็นวิตามินได้โดยอาศัยแสงแดด ซึ่งแน่นอนว่าผู้ที่หมั่นออกกำลังกายกลางแจ้งในช่วงเช้าหรือช่วงเย็นของวันรับรองว่าได้รับวิตามินดีไปเต็ม ๆ อย่างเพียงพอและยังได้สุขภาพที่แข็งแรงจากการออกกำลังกายอีกด้วย วิตามินดีถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ D2 และ D3 ซึ่งD2 นั้นเป็นรูปแบบของวิตามินดีที่ร่างกายได้รับจากภายนอกเช่นอาหารเสริม หรือจากการรับประทานอาหารบางอย่าง ส่วนวิตามิน D3 นั้น ร่างกายมีกระบวนการสังเคราะห์ขึ้นได้ตามวิธีข้างต้น วิตามินดีมีส่วนช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมแคลเซียมได้ดี ทำให้ปัญหาเกี่ยวกับโรคกระดูกพรุน โรคไขข้อลดน้อยลง และนอกจากนี้ยังพบว่าการขาดวิตามินดีมีส่วนในการเพิ่มโอกาสของการเป็นโรคเบาหวานได้อีกด้วย วิตามินดีพบได้ในอาหารส่วนน้อยซึ่งเป็นประเภท ชีส ไข่แดง เนื้อวัว และปลาที่มีไขมันเป็นจำนวนมากเช่นปลาทูน่า ปลาแซลมอน ปกติแล้วปริมาณวิตามินดีที่แนะนำในแต่ละวันคือ 600 IU เป็นต้นไปแต่ไม่ควรจะถ้าเกิน 40000 IU ถ้าหากรับวิตามินดีมากเกินไปจะเกิดภาวะวิตามินดีเป็นพิษ จะมีปัญหาไตวาย แคลเซียมในเลือดสูง จนถึงอาการโคม่า การรับประทานวิตามินดีเกินขนาดถือเป็นเรื่องที่อันตรายมาก ดังนั้นไม่ควรซื้ออาหารเสริมที่มีวิตามินดีสูงมารับประทานเองควรจะปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อน

วิตามินบี

วิตามินบีจัดเป็นวิตามินที่มีอนุพันธ์ย่อยแยกออกมาหลายแบบมากที่สุดในหมู่วิตามินซึ่งประกอบด้วย บี1 บี2 บี3 บี5 บี6 บี7 บี9 บี12 ซึ่งวิตามินบีในแต่อนุพันก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป แต่โดยรวมแล้ววิตามินดีจะทำงานในด้านที่เกี่ยวกับระบบเส้นประสาทภายในร่างกาย ถ้าหากขาดวิตามินดีแล้วมันจะมีอาการประเภท โรคเหน็บชา โรคความรู้สึกเพี้ยน กลุ่มอาการเวอร์นิเกคอร์ซาคอฟ โรคเพลแลกรา ปกติแล้ววิตามินบีพบได้ในสารอาหารประเภทเนื้อหมู ปลา เนื้อไก่ บล็อกโคลี่ อะโวคาโด ผัก ข้าวซ้อมมือ ฝรั่ง ตับ กล้วย ป๊อปคอร์น หน่อไม้ ซึ่งการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ก็ถือว่าเพียงพอแล้วสำหรับการรับวิตามินบี วิตามินบีโดยรวมทุกอนุพันธ์ร่างกายก็ต้องการแตกต่างกันไป แต่ถ้ารับมากเกินไปนั้นร่างกายจะมีอาการง่วงนอน ท้องร่วง กรดไหลย้อน แต่ส่วนที่อันตรายมากที่สุดคือวิตามิน บี3 และ บี6 ซึ่ง บี3 สามารถทำให้ตับเสียหายได้ในระยะยาวถ้าหากรับมากกว่า 2 กรัมต่อวันและ บี6 นั้นจะทำให้ปลายเส้นประสาทเสียหายจนความรู้สึกรับรู้จากมือเท้าหรือเส้นประสาทต่าง ๆ ผิดไปจากเดิม การรับประทานวิตามินบีเป็นอาหารเสริมเหมาะสำหรับช่วงวัยตั้งแต่วัยทองจนถึงผู้สูงอายุซึ่งจะช่วย ซัพพอร์ตสภาพร่างกายที่เพิ่มเสื่อมสมรรถภาพลง นอกจากนี้ในหมู่ของพนักงานออฟฟิศควรจะรับประทาน บี9 ซึ่งมีส่วนป้องกันอาการภาวะโลหิตจางและลดอาการซึมเศร้า ลดอาการขี้หลงขี้ลืม เพราะชาวออฟฟิศทั้งหลายอาจจะนั่งอยู่ที่เดิมเป็นระยะเวลานานจนเกิดเป็นโรคออฟฟิศซินโดรมตามมา

วิตามินอี

ร่างกายต้องการวิตามินอีปริมาณเพียงน้อยนิดในแต่ละวัน เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 10 มิลกรัมเพียงเท่านั้น สำหรับบุคคลทั่วไปที่รับประทานอาหารครบ 5 หมู่เป็นประจำ เชื่อว่าเพียงพอแล้วสำหรับวิตามินอี โดยเฉพาะการรับประทานอาหารประเภท ธัญพืชและถั่ว ที่มีเปลือกแข็ง เช่นถั่วเหลือง เมล็ดทานตะวัน อัลมอล ข้าวโพด อะโวคาโด กะหล่ำปลี ข้าวสาลี เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เมล็ดกาแฟ วิตามินอีจัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระมีส่วนช่วยชะลอวัย ร่างกายของมนุษย์ต้องการวิตามินอีเพื่อนำมาเสริมสร้างเยื่อหุ้มเซลล์และยังช่วยลดการอุดตันของเม็ดเลือดได้ดีอีกด้วย สำหรับคนที่ขาดวิตามินอีจะมีอาการเกี่ยวกับระบบทางประสาท รู้สึกชาปลายมือปลายเท้า ระบบประสาททำงานได้ไม่ค่อยสมบูรณ์ แต่สำหรับคนที่รับวิตามินอีมากเกิน 800 IU ต่อวัน ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาการที่แสดงออกมาคือการอาเจียน ท้องเสีย สับสน มึนงง การเก็บรักษาวิตามินอีถ้าหากเป็นอาหารเสริมจะต้องเก็บให้พ้นแสงแดดและอุณหภูมิที่ไม่ปกติ โดยเฉพาะที่ที่มีอุณหภูมิเย็นจัด แต่สำหรับการรักษาวิตามินอีที่มีอยู่ในอาหารนั้นเพียงแค่จัดเก็บตามปกติก็ถือว่าเพียงพอแล้ว เนื่องจากว่าวิตามินอีจัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระมีงานวิจัยรองรับว่าช่วยต่อต้านการอักเสบเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งส่งผลต่อลดโอกาสในการเกิดโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด เนื่องจากเซลล์ของเม็ดเลือดมีความแข็งแรงมากขึ้น และยังมีส่วนยับยั้งการก่อตัวของเซลล์มะเร็งซึ่งมีต้นเหตุมาจากการอักเสบตามอวัยวะต่าง ๆ จากคุณสมบัติช่วยชะลอวัยทำให้ชะลอความเสื่อมของเซลล์สมองป้องกันไม่ให้กลายเป็นโรคอัลไซเมอร์

วิตามินซี

เมื่อพูดถึงวิตามินแล้ว คาดว่าวิตามินซีของเป็นที่รู้จักมากที่สุดในวงการอาหารเสริม เพราะมีอันตรายน้อย แต่มีประโยชน์กับร่างกายมนุษย์มาก มีหลายบริษัทใช้โฆษณากล่าวอ้างว่าเพิ่มวิตามินซีลงไปในขนมขบเคี้ยวหรือสารอาหารบางอย่างเพื่อใช้เป็นแรงจูงใจในการซื้อสินค้า ซึ่งหลายคนอาจจะคุ้นเคยกับวิตามินซีที่เป็นซองขนาดเล็ก ภายในอุดมไปด้วยกรดอะมิโน กลูโคส สารให้ความหวานหลายชนิด อยู่ในลักษณะของลูกอมที่มีไว้ให้เด็กทานเล่น วิตามินซีมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่ากรดแอสคอร์บิก l-ascorbic acid ซึ่งมีงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับในระดับโลกหลายชุดว่าวิตามินซีสามารถช่วยป้องกันโรคหวัดธรรมดาในระดับหนึ่ง แต่การกินวิตามินซีที่มากเกินไปนั้นจะส่งผลต่อการทำงานของไตที่มากขึ้นถ้าหากดื่มน้ำมากในช่วงวันก็ไม่เป็นไรแต่ถ้าดื่มน้ำน้อยการรับประทานวิตามินซีที่มากไปจะส่งผลให้อุจจาระแห้งและแข็งมากขึ้นเพราะร่างกายต้องดึงน้ำเพื่อขับวิตามินส่วนเกินออก ในคนปกติการรับประทานวิตามินซีในปริมาณ 100 มิลลิกรัมต่อวันก็ถือว่ามากเกินพอ นอกจากการใช้ด้านสุขภาพแล้ววิตามินซียังนิยมใช้ในเรื่องการเสริมความงาม เพิ่มความเปล่งปลั่งของผิวโดยการฉีดเข้ากล้ามเนื้อโดยตรง วิตามินซีนั้นจะไปกระตุ้นหลอดเลือดให้ไหลเวียนดีเมื่อใช้ควบคู่กับคอลลาเจนจะส่งผลให้ผิวชุ่มชื้นมีน้ำมีนวลและทนต่อสภาพอากาศหนาวได้ดี วิตามินซีจัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีความสำคัญพบได้ในอาหารประเภทที่มีรสเปรี้ยว เป็นผลไม้ในกลุ่มส้ม เช่น มะนาว ส้มเขียวหวาน กีวี่ สตอเบอรี่ นอกจากนี้ยังพบวิตามินซีได้มากในบล็อกโคลี่ พริกหยวก _x005

Back To Top